Tag : ปรีกษาปัญหาความรัก
สวัสดีครับเพื้อนๆ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะครับ
ขอใช้ตัวย่อละกันนะครับ
ผมชื่อ S อายุ 23 ปี
แฟนผม N อายุ 21 ปี
ก่อนจะเล่าส่วนที่เป็นปัญหาผมขอเล่าถึงส่วนที่มันเป็นต้นเหตุก่อนนะครับ ก่อนอื่นเลยผมกับแฟนคบกันมา เกือบๆ จะ 2 ปีแล้วครับ (1 ปี 9 เดือน) โดยผมเป็นฝ่ายไปจีบก่อนคบกันได้ประมาณร 10 วันก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน (ย้ายมาอยู่ที่บ้านผม) ทุกอย่างกำลังไปได้สวยไม่มีปัญหาอะไร ทางแม่กับพี่ชายผมก็โอเคด้วย(แบบว่าไม่มีปัญหา แต่ก็ไม่ถึงกับรัก) หลังจากแฟนผมมาอยู่บ้าน แฟนผมก็ต้องคอยโกหก คุณพ่อกับคุณแม่ ของเขาเพื่อที่จะได้มาอยู่กับผม (ผมอึดอัดแทนเขามากๆ ครับ) แต่ผมก็ไม่อยากให้เขาโกหกแต่ผมก็อยากอยู่กับเขาเหมือนกันครับ (ประมาณรเป็นคนติดแฟนกันทั่งคู่) พวกเราคบกันช่วงแรกๆ ทุกอย่างดูเพอเฟ็คครับ รับกันได้ทุกอย่างเหมือนที่ทุกคนเข้าใจกันดีคือช่วง (โปรโมชั่นนั่นหละครับ) แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนตั่งแต่ที่คุณพ่อของผมเริ่มรับกับพฤติกรรมของแฟนผมไม่ค่อยได้ครับ "เพราะพ่อผมเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมีนิสัยค่อนข้างเจ้าระเบียบ และเนียบมากๆครับ คือในบ้านไม่มีใครกล้าเถียงพ่อเลย" แฟนผมนั่นค่อนข้างจะขี้เกียจครับงานบ้านนี้ทำบ้างไม่ทำบ้างครับ (ถ้าไม่บอกก็ไม่ทำอะครับ - -") แต่ผมก็รับได้คงเพราะช่วงที่คบกันอายุยังน้อยอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหลังจากนั่น พ่อผมก็คอยพูดเกี่ยวกับแฟนผมทุกวันที่มีโอกาศเลยครับ "ประมาณรว่าคนนี้ไม่เหมาะคนนี้ไม่ถูกใจ แต่แค่ไม่พูดออกมาตรงๆ เชยๆ" ต่อมาพอเข้าช่วงกลางปี ที่ 1 แฟนผมก็เริ่มทำนิสัยแบบที่เราไม่ค่อยชอบให้เห็น
แบบว่าโดยปกติแล้วแฟนผมเป็นคนเอาแต่ใจครับเมื่อก่อนแค่นิดหน่อย พักหลังนี้หนักมากๆ อยากได้ไรต้องได้ อยากไปไหนก็ต้องไป อะไรทำนองนั่นโอเคผมทำให้ทุกอย่างเพราะผมรักแฟนมากๆครับ ถึงแม้เป็นที่ที่ผมไม่อยากไปผมก็ต้องไป สิ่งที่ผมไม่อยากทำผมก็ยอมทำให้ ทำให้ทุกอย่างแต่พอผมประสบปัญหาหรือมีสิ่งที่เขาเท่านั่นที่ช่วยผมได้เขากลับทำให้ผมได้ไม่ดีอย่างที่ควรครับ "ขอยกแค่เรื่องสำคัญเรื่องเดียวนะครับกลัวเพื่อนๆจะขี้เกียจอ่าน"
มีครั่งนึงผมป่วยเป็นไข้เลือดออก พึ่งตรวจเจอวันนั่นครับ ระหว่างที่ผมรอผลตรวจเลือด ด้วยอาการที่ยังไม่ทรุดมากนัก ผมก็โทรไปหาแฟนผมว่า
S : ฮโหล
N : ฮโหล ค่ะ
S : อยู่ที่ไหนอะ มี๊
N : อยู่โรงหนังกำลังจะเข้าไปดูกับเพื่อน
S : มาอยู่เป็นเพื่อนที่โรงพยาบาลหน่อย เค้าไม่สบาย
N : ตัวเองเป็นอะไร
S : รอฟังผลตรวจเลือดอยู่ ว่าจะเป็นไข้เลือดออกไหม
N : แต่เค้าซื้อตั๋วแล้วอะ ไว้ดูเสร็จเค้าจะรีบไปนะ
N : แค่นี้นะ ......
โอเคยอมรับว่าอารมณ์ตอนนั่นผิดหวังมากๆครับ ช่วงนั่นเป็นช่วงบ่ายๆ กำลังจะบ่าย สองหลังจากได้รับผลตรวจยืนยันว่าเป็นจริงผมก็ต้องนอนที่โรงพยาบาลโทรหาพ่อกับแม่เสร็จ ได้ความว่าพรุ่งนี้พ่อกับแม่ถึงจะกลับมาถึงบ้าน "สรุปคืนนี้ผมต้องอยู่คนเดียว" โอเคหลังจากเข้าห้องพักเจาะเลือดอะไรเสร็จผมก็ตั่งหน้าตั่งตารอให้แฟนผมมาเฝ้าด้วยความนอย นิดๆ ประมาณรว่าจะลองใจดูว่าถ้าไม่โทรตามเขาจะนึกถึงผมไหมว่าผมนอนที่โรงบาลอยู่ปรากฏว่าผมรอยัน 5 ทุ่ม ไม่มีแม้เหงา ครับ ผมเลยโทรหาเขาถามว่าเมื่อไหร่จะมา สิ่งที่ได้ยินกลับมาเสียความรู้สึกมากครับ "เค้ากลับถึงบ้านแล้วไม่ออกไปแล้วเค้ากลัว" โอเคประจวบเหมาะหมอเอายามาให้กินพอดีผมก็กินยาแล้วนอนพักผ่อน ตื่นมาก็คิดว่าคงต้องเลิกแล้วหละแต่พอเห็นหน้าเขาตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นผมก็ลืมไปสนิทครับว่าเขาทำอะไรไว้ นี้เป็นแค่ 1 ใน เรื่องที่ผมยกมาให้เพื่อนๆลองช่วยผมคิด
โอเคหลังจากเหตุการวันนั่นผ่านไปไม่นานที่มหาลัยก็เริ่มเข้าสู่ช่วงกิจกรรม แฟนผมเป็นหลีดของคณะแน่หละต้องทำกิจกรรมยันดึกดื่นผมก็ต้องคอยดูแลเขาไปรับไปส่งตามแต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงที่เราสองคนสิครับเพราะปัญหาที่แท้จริงของเรื่องส่วนนี้คือ พ่อผมนั่นไม่ชอบผู้หญิงกลับบ้านดึก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ชั่ง พอถึงเวลาที่ผมต้องไปรับแฟนผมซึ่งก็ดึกมากๆ "ประมาณร 0.00 - 2.00 am' ซึ่งดึกมากๆ แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่พ่อ ผมกลับมาบ้านด้วยมันเลยทำให้เรามีปัญหากับเรื่องพวกนี้บ่อย เพราะผมไม่อยากให้พ่อผมดูไม่ดี อยากให้ พ่อยอมรับในตัวเขา แต่ก็ทะเลาะกันกับเรื่องเดิมๆคือกลับบ้านดึกนี้หละครับ แต่บอกตรงๆ ถึงจะทะเลาะกันแค่ไหน ผมก็ไม่เคยด่าว่า หรือขึ้นกูขึ้นมึงกับเขาเลย แม้แต่เรื่องที่ผมไม่ผิดผมก็พยายามง้อเขาเสมอแล้วก็ทะเลาะกันทุกครั่งเขาจะขอเลิกกับผมตลอด ประมาณรว่า "รับได้ไหมหละรับไม่ได้ก็เลิกกันไปเลย" โอเคผมบอกเลยว่าผมเลิกกับเขาไม่ได้ หลังจากนั่นก็ประคับประคองกันมาได้จน ครบปี
โอเคสำหรับแฟนผมก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสีย ข้อดีแฟนผมก็มีคือ เขาเป็นคนที่รู้มารยาทเวลาอยู่ที่บ้านหรือเวลาเจอญาติผู้ใหญ่นี้แฟนผมทำตัวดีมากๆครับ
คราวนี้มาถึงเรื่องที่มันทำให้เรื่องทั่งหมดมาถึงจุดเปลี่ยนสำหรับชีวิตผมเรื่องดำเนินมาถึงตอนที่ผมกำลังจะไปฝึกงาน (ปี 4 เทอมสอง ผมต้องไปฝึกงาน)ฝึกก็ฝึกในตัวจังหวัดนี้หละครับแต่ปัญหาก็คือว่า พ่อผมเรียกผมไปคุยเกี่ยวกับอนาคต ว่าผมจะเอายังไงกับชีวิต ก็คุยกันภาษาพ่อลูกสองต่อสองพ่ออยากให้ผมไปเรียนต่างประเทศหลังจากที่ผมจบ "ผมค่อนข้างหัวดีเรื่องภาษากับวิชาที่เกี่ยวกับประวิตศาสตร์ครับ" โอเคฟังแล้วเป็นความคิดที่ดีผมก็เลยบอกพ่อว่าโอเคถ้าจะไปลูกขอพาแฟนไปด้วยได้ไหม "เท่านั่นหละครับปัญหาเกิด" พ่อผมพูดมาเลยประมาณรว่ายืนกรานบอกคนนี้พ่อไม่เอาผมก็พยายามพูดให้พ่อฟังเกี่ยวกับข้อดีของแฟนผมแก้ตัวให้ต่างๆนาๆ แต่ก็พูดมากไม่ได้เพราะรู้ว่าถ้าต่อปากต่อคำไปงานเข้าหนักกว่าเดิม "พ่อผมเป็นคนอารมร้อนมากครับ อย่าได้เถียงเชียว" โอเคในเมื่อเปลี่ยนที่พ่อไม่ได้ลองไปคุยกับแฟนเราดีกว่า หลังจากนั่นผมก็ไปจับเค่าคุยกับแฟนเรื่องอนาคต ทุกๆเรื่อง เริ่มจากเรื่องไปต่างประเทศ แฟนผมยืนกรานว่าเขาคงไปด้วยกันกับผมไม่ได้ เพราะบอกว่าถ้าไปด้วยกันแล้วใครจะดูแลพ่อกับแม่เขา โอเคผมรับเหตุผลข้อนี้ได้ ต่อมาผมก็พูดถึงเรื่อง พฤติกรรม ที่พ่อผมรับไม่ได้ในตัวเขาให้เขาฟัง จะได้ปรับปรุงตัว โอเคผมยอมรับว่าผมพูดโน้มน้าวใจไม่เก่งเท่าไหร่เขาก็บอกจะพยายาม ผ่านมา อีก 3 เกือบ ๆ 4 เดือน เขาก็ยังเหมือนเดิม ขี้เกียจงานบ้านไม่ทำ ตื่น สาย วันๆเอาแต่เล่นโทรสัพท์กับดู Social Cam
ผมก็คิดไม่ตกว่าจะทำยังไงให้แฟนผมเปลี่ยน กลุ้มเรื่องนี้มากๆ ทั่งอาทิต เล่นเอา กินไม่หลับนอนไมไ่ด้ "คงเข้าใจนะครับ 555" ผมก็ไม่รู้จะทำไง ปวดหัวมากครับ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงต้องเลิกกันแหงมๆ จนกระทั่ง......
ดำเนินมาถึงต้นเหตุของปัญหาแล้วครับหลังจากร่ายยาว
มีอยู่ว่าหลังจากที่ผมปวดหัวกับเรื่องที่ว่าจะทำยังไงให้ครอบครัวยอมรับแฟนผม ทันใดนั่นก็มีแฟนเก่าผม เป็นคนที่คุยกันมาตั่งแต่ยัง เรียน มัธยมทักมาผมก็คุยกับเขาปรึกษาเขาทุกๆเรื่อง พูดคุยเกี่ยวกับความหลังบ้างปรากฏว่าเขายังเป็นคนเดิมยังน่ารักอย่างเคยเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกผมเสมอและเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากครับ พูดจาสุภาพ เกลียดอะไรเหมือนๆ ผมหลังจากที่ผมได้คุยกับเขามาสักระยะ "ยอมรับว่าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการคุยกับเขาเลยครับ" จนวันนึงแฟนผมจับได้ว่าผมคุยกับเขา โอเคผมยอมรับผิด แต่ผมก็ต้องอธิบายให้เขาฟังว่าที่ผมต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าผมไม่รู้จะปรึกษาใครในเมื่อคุณไม่ยอมเปลี่ยนผมก็คงต้องไป.....หลังจากทะเลาะกันเรื่องนี้เคลียกันจบ เขายืนยันเป็นหมั้นเป็นเหมาะว่าโอเคในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้เขาจะยอมเปลี่ยนเพื่อผมทำทุกอย่างให้ครอบครัวผมยอมรับตอนแรกๆก็ดีครับ (วันที่โพสเพิ่งผ่านมา 5 วัน) แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ความรู้สึกที่ผมมีกับแฟนผมที่อยู่กันมาตลอด เกือบ 2 ปีนี้ เหมือนจะลดน้อยลงครับ ในใจผมกลับคิดถึงแต่แฟนเก่าผมคนนั่นอยู่ตลอดเวลา แต่ผมสัญญาไว้ว่าจะไม่โทรหาเขาอีก
ปรากฏว่าตอนนี้ผมอยู่กับเขาแบบไม่เหมือนเดิมเลยครับความรู้สึกที่ไม่เคยคิดมาก่อนก็คิดขึ้นมาแบบ "เมื่อไหร่จะกลับบ้านหนอ (แฟนผมกลับไปหาพ่อแม่เขา)" แบบเมื่อไหร่จะได้คุยกับเขาคนนั่นอีก หนอ แบบอยู่กับแฟนก็เหมือนไม่อยู่อะครับ ในใจเอาแต่คิดถึงแต่เขา อารมณ์แบบว่า "นึกภาพเขาแล้วเห็นอนาคตที่ดีอะครับ" แต่ติดที่ว่าตอนนี้ผมก็มีแฟนอยู่ เขาก็มีแฟนอยู่แต่ตอนคุยกับเขาคนนั่นผมก็เล่าถึงเรื่องที่พ่อผมพูดเกี่ยวกับอนาคตแล้วเรื่องที่ผมจะทำในอนาคตเขาก็บอกว่าอยากให้แฟนเขาคิดแบบนี้ได้บ้าง แล้วเขาก็พูดถึงเรื่องแฟนเขาว่าไม่ดีอย่างโง้นไม่ดีอย่างงี้แล้วก็บอกว่าคุยกับผมแล้วเขารู้สึกดีมากๆ แต่รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ "แอบคุยกันอะไรแบบนี้ ซึ่งผมก็เข้าใจเพราะผมก็กำลังเป็นอยู่" ผมไม่รู้คิดอะไรเอาดวงผมไปให้หมอดูดู เขาก็บอกว่าดวงผมกับคนเก่านี้เหมาะกันมาก "เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ แต่ก็แอบดีใจ " ผมก้ไปเล่าให้เขาฟังเขาก็บอกว่าเขาก็ทำเหมือนกัน ผมก้แอบดีใจอีกเหมือนกัน ประมาณรว่าคิดอะไรคล้ายๆกันอะครับ แต่ผมไม่รุ้จะทำยังไงตอนนี้ผมก็ยังมีแฟนอยู่ แล้วก็ถูกห้ามคุยกับเขา ผมก็รับปากแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าทรมารมากคิดถึงแต่เขาตลอดเวลา ถึงขั้นเหม่อลอยก็มี อึดอัดมากๆ ไม่รุ้จะทำไง เลยอยากให้เพื่อนๆ ช่วยแสดงความคิดเห็นทีครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ผมเล่าเรื่องไม่เก่ง ขอโทษด้วยครับ
"สำหรับท่านผู้หญิงที่คิดว่าผมเลว ขอความกรุณา อย่าด่านะครับผมก็รุ้สึกแบบนั่นเหมือนกัน T_T"
ขอใช้ตัวย่อละกันนะครับ
ผมชื่อ S อายุ 23 ปี
แฟนผม N อายุ 21 ปี
ก่อนจะเล่าส่วนที่เป็นปัญหาผมขอเล่าถึงส่วนที่มันเป็นต้นเหตุก่อนนะครับ ก่อนอื่นเลยผมกับแฟนคบกันมา เกือบๆ จะ 2 ปีแล้วครับ (1 ปี 9 เดือน) โดยผมเป็นฝ่ายไปจีบก่อนคบกันได้ประมาณร 10 วันก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน (ย้ายมาอยู่ที่บ้านผม) ทุกอย่างกำลังไปได้สวยไม่มีปัญหาอะไร ทางแม่กับพี่ชายผมก็โอเคด้วย(แบบว่าไม่มีปัญหา แต่ก็ไม่ถึงกับรัก) หลังจากแฟนผมมาอยู่บ้าน แฟนผมก็ต้องคอยโกหก คุณพ่อกับคุณแม่ ของเขาเพื่อที่จะได้มาอยู่กับผม (ผมอึดอัดแทนเขามากๆ ครับ) แต่ผมก็ไม่อยากให้เขาโกหกแต่ผมก็อยากอยู่กับเขาเหมือนกันครับ (ประมาณรเป็นคนติดแฟนกันทั่งคู่) พวกเราคบกันช่วงแรกๆ ทุกอย่างดูเพอเฟ็คครับ รับกันได้ทุกอย่างเหมือนที่ทุกคนเข้าใจกันดีคือช่วง (โปรโมชั่นนั่นหละครับ) แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนตั่งแต่ที่คุณพ่อของผมเริ่มรับกับพฤติกรรมของแฟนผมไม่ค่อยได้ครับ "เพราะพ่อผมเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมีนิสัยค่อนข้างเจ้าระเบียบ และเนียบมากๆครับ คือในบ้านไม่มีใครกล้าเถียงพ่อเลย" แฟนผมนั่นค่อนข้างจะขี้เกียจครับงานบ้านนี้ทำบ้างไม่ทำบ้างครับ (ถ้าไม่บอกก็ไม่ทำอะครับ - -") แต่ผมก็รับได้คงเพราะช่วงที่คบกันอายุยังน้อยอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหลังจากนั่น พ่อผมก็คอยพูดเกี่ยวกับแฟนผมทุกวันที่มีโอกาศเลยครับ "ประมาณรว่าคนนี้ไม่เหมาะคนนี้ไม่ถูกใจ แต่แค่ไม่พูดออกมาตรงๆ เชยๆ" ต่อมาพอเข้าช่วงกลางปี ที่ 1 แฟนผมก็เริ่มทำนิสัยแบบที่เราไม่ค่อยชอบให้เห็น
แบบว่าโดยปกติแล้วแฟนผมเป็นคนเอาแต่ใจครับเมื่อก่อนแค่นิดหน่อย พักหลังนี้หนักมากๆ อยากได้ไรต้องได้ อยากไปไหนก็ต้องไป อะไรทำนองนั่นโอเคผมทำให้ทุกอย่างเพราะผมรักแฟนมากๆครับ ถึงแม้เป็นที่ที่ผมไม่อยากไปผมก็ต้องไป สิ่งที่ผมไม่อยากทำผมก็ยอมทำให้ ทำให้ทุกอย่างแต่พอผมประสบปัญหาหรือมีสิ่งที่เขาเท่านั่นที่ช่วยผมได้เขากลับทำให้ผมได้ไม่ดีอย่างที่ควรครับ "ขอยกแค่เรื่องสำคัญเรื่องเดียวนะครับกลัวเพื่อนๆจะขี้เกียจอ่าน"
มีครั่งนึงผมป่วยเป็นไข้เลือดออก พึ่งตรวจเจอวันนั่นครับ ระหว่างที่ผมรอผลตรวจเลือด ด้วยอาการที่ยังไม่ทรุดมากนัก ผมก็โทรไปหาแฟนผมว่า
S : ฮโหล
N : ฮโหล ค่ะ
S : อยู่ที่ไหนอะ มี๊
N : อยู่โรงหนังกำลังจะเข้าไปดูกับเพื่อน
S : มาอยู่เป็นเพื่อนที่โรงพยาบาลหน่อย เค้าไม่สบาย
N : ตัวเองเป็นอะไร
S : รอฟังผลตรวจเลือดอยู่ ว่าจะเป็นไข้เลือดออกไหม
N : แต่เค้าซื้อตั๋วแล้วอะ ไว้ดูเสร็จเค้าจะรีบไปนะ
N : แค่นี้นะ ......
โอเคยอมรับว่าอารมณ์ตอนนั่นผิดหวังมากๆครับ ช่วงนั่นเป็นช่วงบ่ายๆ กำลังจะบ่าย สองหลังจากได้รับผลตรวจยืนยันว่าเป็นจริงผมก็ต้องนอนที่โรงพยาบาลโทรหาพ่อกับแม่เสร็จ ได้ความว่าพรุ่งนี้พ่อกับแม่ถึงจะกลับมาถึงบ้าน "สรุปคืนนี้ผมต้องอยู่คนเดียว" โอเคหลังจากเข้าห้องพักเจาะเลือดอะไรเสร็จผมก็ตั่งหน้าตั่งตารอให้แฟนผมมาเฝ้าด้วยความนอย นิดๆ ประมาณรว่าจะลองใจดูว่าถ้าไม่โทรตามเขาจะนึกถึงผมไหมว่าผมนอนที่โรงบาลอยู่ปรากฏว่าผมรอยัน 5 ทุ่ม ไม่มีแม้เหงา ครับ ผมเลยโทรหาเขาถามว่าเมื่อไหร่จะมา สิ่งที่ได้ยินกลับมาเสียความรู้สึกมากครับ "เค้ากลับถึงบ้านแล้วไม่ออกไปแล้วเค้ากลัว" โอเคประจวบเหมาะหมอเอายามาให้กินพอดีผมก็กินยาแล้วนอนพักผ่อน ตื่นมาก็คิดว่าคงต้องเลิกแล้วหละแต่พอเห็นหน้าเขาตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นผมก็ลืมไปสนิทครับว่าเขาทำอะไรไว้ นี้เป็นแค่ 1 ใน เรื่องที่ผมยกมาให้เพื่อนๆลองช่วยผมคิด
โอเคหลังจากเหตุการวันนั่นผ่านไปไม่นานที่มหาลัยก็เริ่มเข้าสู่ช่วงกิจกรรม แฟนผมเป็นหลีดของคณะแน่หละต้องทำกิจกรรมยันดึกดื่นผมก็ต้องคอยดูแลเขาไปรับไปส่งตามแต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงที่เราสองคนสิครับเพราะปัญหาที่แท้จริงของเรื่องส่วนนี้คือ พ่อผมนั่นไม่ชอบผู้หญิงกลับบ้านดึก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ชั่ง พอถึงเวลาที่ผมต้องไปรับแฟนผมซึ่งก็ดึกมากๆ "ประมาณร 0.00 - 2.00 am' ซึ่งดึกมากๆ แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่พ่อ ผมกลับมาบ้านด้วยมันเลยทำให้เรามีปัญหากับเรื่องพวกนี้บ่อย เพราะผมไม่อยากให้พ่อผมดูไม่ดี อยากให้ พ่อยอมรับในตัวเขา แต่ก็ทะเลาะกันกับเรื่องเดิมๆคือกลับบ้านดึกนี้หละครับ แต่บอกตรงๆ ถึงจะทะเลาะกันแค่ไหน ผมก็ไม่เคยด่าว่า หรือขึ้นกูขึ้นมึงกับเขาเลย แม้แต่เรื่องที่ผมไม่ผิดผมก็พยายามง้อเขาเสมอแล้วก็ทะเลาะกันทุกครั่งเขาจะขอเลิกกับผมตลอด ประมาณรว่า "รับได้ไหมหละรับไม่ได้ก็เลิกกันไปเลย" โอเคผมบอกเลยว่าผมเลิกกับเขาไม่ได้ หลังจากนั่นก็ประคับประคองกันมาได้จน ครบปี
โอเคสำหรับแฟนผมก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสีย ข้อดีแฟนผมก็มีคือ เขาเป็นคนที่รู้มารยาทเวลาอยู่ที่บ้านหรือเวลาเจอญาติผู้ใหญ่นี้แฟนผมทำตัวดีมากๆครับ
คราวนี้มาถึงเรื่องที่มันทำให้เรื่องทั่งหมดมาถึงจุดเปลี่ยนสำหรับชีวิตผมเรื่องดำเนินมาถึงตอนที่ผมกำลังจะไปฝึกงาน (ปี 4 เทอมสอง ผมต้องไปฝึกงาน)ฝึกก็ฝึกในตัวจังหวัดนี้หละครับแต่ปัญหาก็คือว่า พ่อผมเรียกผมไปคุยเกี่ยวกับอนาคต ว่าผมจะเอายังไงกับชีวิต ก็คุยกันภาษาพ่อลูกสองต่อสองพ่ออยากให้ผมไปเรียนต่างประเทศหลังจากที่ผมจบ "ผมค่อนข้างหัวดีเรื่องภาษากับวิชาที่เกี่ยวกับประวิตศาสตร์ครับ" โอเคฟังแล้วเป็นความคิดที่ดีผมก็เลยบอกพ่อว่าโอเคถ้าจะไปลูกขอพาแฟนไปด้วยได้ไหม "เท่านั่นหละครับปัญหาเกิด" พ่อผมพูดมาเลยประมาณรว่ายืนกรานบอกคนนี้พ่อไม่เอาผมก็พยายามพูดให้พ่อฟังเกี่ยวกับข้อดีของแฟนผมแก้ตัวให้ต่างๆนาๆ แต่ก็พูดมากไม่ได้เพราะรู้ว่าถ้าต่อปากต่อคำไปงานเข้าหนักกว่าเดิม "พ่อผมเป็นคนอารมร้อนมากครับ อย่าได้เถียงเชียว" โอเคในเมื่อเปลี่ยนที่พ่อไม่ได้ลองไปคุยกับแฟนเราดีกว่า หลังจากนั่นผมก็ไปจับเค่าคุยกับแฟนเรื่องอนาคต ทุกๆเรื่อง เริ่มจากเรื่องไปต่างประเทศ แฟนผมยืนกรานว่าเขาคงไปด้วยกันกับผมไม่ได้ เพราะบอกว่าถ้าไปด้วยกันแล้วใครจะดูแลพ่อกับแม่เขา โอเคผมรับเหตุผลข้อนี้ได้ ต่อมาผมก็พูดถึงเรื่อง พฤติกรรม ที่พ่อผมรับไม่ได้ในตัวเขาให้เขาฟัง จะได้ปรับปรุงตัว โอเคผมยอมรับว่าผมพูดโน้มน้าวใจไม่เก่งเท่าไหร่เขาก็บอกจะพยายาม ผ่านมา อีก 3 เกือบ ๆ 4 เดือน เขาก็ยังเหมือนเดิม ขี้เกียจงานบ้านไม่ทำ ตื่น สาย วันๆเอาแต่เล่นโทรสัพท์กับดู Social Cam
ผมก็คิดไม่ตกว่าจะทำยังไงให้แฟนผมเปลี่ยน กลุ้มเรื่องนี้มากๆ ทั่งอาทิต เล่นเอา กินไม่หลับนอนไมไ่ด้ "คงเข้าใจนะครับ 555" ผมก็ไม่รู้จะทำไง ปวดหัวมากครับ เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงต้องเลิกกันแหงมๆ จนกระทั่ง......
ดำเนินมาถึงต้นเหตุของปัญหาแล้วครับหลังจากร่ายยาว
มีอยู่ว่าหลังจากที่ผมปวดหัวกับเรื่องที่ว่าจะทำยังไงให้ครอบครัวยอมรับแฟนผม ทันใดนั่นก็มีแฟนเก่าผม เป็นคนที่คุยกันมาตั่งแต่ยัง เรียน มัธยมทักมาผมก็คุยกับเขาปรึกษาเขาทุกๆเรื่อง พูดคุยเกี่ยวกับความหลังบ้างปรากฏว่าเขายังเป็นคนเดิมยังน่ารักอย่างเคยเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกผมเสมอและเป็นคนที่มีความอดทนสูงมากครับ พูดจาสุภาพ เกลียดอะไรเหมือนๆ ผมหลังจากที่ผมได้คุยกับเขามาสักระยะ "ยอมรับว่าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการคุยกับเขาเลยครับ" จนวันนึงแฟนผมจับได้ว่าผมคุยกับเขา โอเคผมยอมรับผิด แต่ผมก็ต้องอธิบายให้เขาฟังว่าที่ผมต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าผมไม่รู้จะปรึกษาใครในเมื่อคุณไม่ยอมเปลี่ยนผมก็คงต้องไป.....หลังจากทะเลาะกันเรื่องนี้เคลียกันจบ เขายืนยันเป็นหมั้นเป็นเหมาะว่าโอเคในเมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้เขาจะยอมเปลี่ยนเพื่อผมทำทุกอย่างให้ครอบครัวผมยอมรับตอนแรกๆก็ดีครับ (วันที่โพสเพิ่งผ่านมา 5 วัน) แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ความรู้สึกที่ผมมีกับแฟนผมที่อยู่กันมาตลอด เกือบ 2 ปีนี้ เหมือนจะลดน้อยลงครับ ในใจผมกลับคิดถึงแต่แฟนเก่าผมคนนั่นอยู่ตลอดเวลา แต่ผมสัญญาไว้ว่าจะไม่โทรหาเขาอีก
ปรากฏว่าตอนนี้ผมอยู่กับเขาแบบไม่เหมือนเดิมเลยครับความรู้สึกที่ไม่เคยคิดมาก่อนก็คิดขึ้นมาแบบ "เมื่อไหร่จะกลับบ้านหนอ (แฟนผมกลับไปหาพ่อแม่เขา)" แบบเมื่อไหร่จะได้คุยกับเขาคนนั่นอีก หนอ แบบอยู่กับแฟนก็เหมือนไม่อยู่อะครับ ในใจเอาแต่คิดถึงแต่เขา อารมณ์แบบว่า "นึกภาพเขาแล้วเห็นอนาคตที่ดีอะครับ" แต่ติดที่ว่าตอนนี้ผมก็มีแฟนอยู่ เขาก็มีแฟนอยู่แต่ตอนคุยกับเขาคนนั่นผมก็เล่าถึงเรื่องที่พ่อผมพูดเกี่ยวกับอนาคตแล้วเรื่องที่ผมจะทำในอนาคตเขาก็บอกว่าอยากให้แฟนเขาคิดแบบนี้ได้บ้าง แล้วเขาก็พูดถึงเรื่องแฟนเขาว่าไม่ดีอย่างโง้นไม่ดีอย่างงี้แล้วก็บอกว่าคุยกับผมแล้วเขารู้สึกดีมากๆ แต่รู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ "แอบคุยกันอะไรแบบนี้ ซึ่งผมก็เข้าใจเพราะผมก็กำลังเป็นอยู่" ผมไม่รู้คิดอะไรเอาดวงผมไปให้หมอดูดู เขาก็บอกว่าดวงผมกับคนเก่านี้เหมาะกันมาก "เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ แต่ก็แอบดีใจ " ผมก้ไปเล่าให้เขาฟังเขาก็บอกว่าเขาก็ทำเหมือนกัน ผมก้แอบดีใจอีกเหมือนกัน ประมาณรว่าคิดอะไรคล้ายๆกันอะครับ แต่ผมไม่รุ้จะทำยังไงตอนนี้ผมก็ยังมีแฟนอยู่ แล้วก็ถูกห้ามคุยกับเขา ผมก็รับปากแล้ว แต่ผมรู้สึกว่าทรมารมากคิดถึงแต่เขาตลอดเวลา ถึงขั้นเหม่อลอยก็มี อึดอัดมากๆ ไม่รุ้จะทำไง เลยอยากให้เพื่อนๆ ช่วยแสดงความคิดเห็นทีครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ผมเล่าเรื่องไม่เก่ง ขอโทษด้วยครับ
"สำหรับท่านผู้หญิงที่คิดว่าผมเลว ขอความกรุณา อย่าด่านะครับผมก็รุ้สึกแบบนั่นเหมือนกัน T_T"